หลักการเขียนอีบุ๊ค (ebook)
หลักการในการเขียนอีบุ๊คที่ดี หลัการณ์นี้เป็นหลักการความคิดและเป็นแนวทางของผมของผมเพียงคนเดียว
1 หัวข้อ
เรื่อง หรือ เรื่องที่จะนำมาเขียนก่อน
ซึ่งเป็นเรื่องสำคัญไม่ยิ่งหย่อนไปกว่าส่วนอื่น
ผมมองส่วนนี้เป็นส่วนสำคัญเลยก็ว่าได้ เพราะหัวเรื่องไม่ดี หรือไม่น่าสนใจแล้ว
มันสามารถบ่งบอกว่าเนื้อหาในเรื่องก็คงไม่น่าสนใจเท่าไร
ดังนั้นการคิดชื่อเรื่อง
ต้องตั้งให้มีความน่าสนใจเพื่อดึงดูดให้ผู้ที่พบเห็นมีความสนใจในเรื่องที่
เราเขียน ทางที่ดีหาข้อมูลก่อนก็ได้ครับว่าตอนนี้คนส่วนใหญ่สนใจเรื่องอะไรกัน ก็ทำเรื่องนั้นก็ได้
2 รวบรวมเนื้อหาและข้อมูลที่เราจะเขีียนเรื่องนั้นๆให้ได้มากที่สุด อาจจะเป็นข้อมูลหรือ Information ของตัวเราเองนำออกมาเขียนก็ได้ เช่นเรามีความรู้เรื่องอะไรก็เขียนมันออกมา
3 ร่างรูปแบบเนื้อหาใน
หนังสือให้เหมือนจริงมากที่สุด โดยการร่างและเขียนลงในสมุดเปล่าๆ 1 เล่ม
เพื่อลดความผิดพลาดในการเขียนเนื้อเรื่องจริงๆ
จะได้ไม่เขียนวกไปวนมาทำให้อ่านแล้วงงๆ โดยมีส่วนสำคัญดังนี้ ที่ต้องมี
แต่ไม่ได้บังคับ เช่น มีคำนำ , สารบัญ,เนื้อเรื่อง,
จำนวนหน้า,บทสรุปหรือบทส่งท้าย,และแหล่งที่มาของข้อมูล
นี่เป็นตัวอย่างคราวๆที่สมควรจะมี
แต่ขึ้นอยู่การวางรูปแบบของบางคนซึ่งไม่มีตายตัวว่าจะทำในลักษณะไหน
3 วางแผนเวลาในการเขียนอีบุ๊คของเราว่าจะเขียนให้เสร็จใช้เวลากี่วัน เช่นต้องเขียนให้เสร็จภายใน 1 เดือน แล้วก็แบ่งเวลาในแต่ละวันว่าจะเขียนวันละกี่ชั่วโมง
4
เริ่มลงมือเขียน โดยเริ่มลงมือเขียนตามรูปแบบที่เราร่างไว้ในสมุดนั้น
เราก็พิมพ์ตามที่เราวางแผนไว้
ตรงนี้อาจจะใช้เวลาพอสมควรมันขึ้นอยู่กับแต่ละคน
การเขียนที่ดีเขียนให้เหมือนการพูดคุยกับเพื่อน
หรือเหมือนพูดกับคนทั่วๆไปไม่ต้องเป็นทางการมาก
การเขียนเหมือนการพูดจะทำให้เข้าใจเนื้อเรื่องมากกว่าการเขียนที่เป็น
วิชาการ ก็แล้วแต่ละคนอีกบางคนชอบเขียนแบบเล่าเรื่อง
บางคนชอบเขียนให้เป็นแบบมาตรฐานตามหลักวิชาการ ซึ่งการเขียนทั้ง 2
แบบไม่มีผิดไม่มีถูกสามารถเขียนได้ทั้ง 2 แบบ
5 ให้ตัดเรื่องเงินหรือผลตอบแทนออกไปจากหัวของเราก่อน เพราะถ้าเรามัวแต่คิดถึงเรื่องผลตอบ
แทนหรือรายได้ มันจะทำให้ผลงานที่เราเขียนนั้นออกมาไม่ดี
ไม่เต็มเม็ดเต็มหน่วย ดังนั้นถ้าเราเขียนออกมาดี
รายได้หรือผลตอบแทนมันก็จะเป็นไปตามเนื้อผ้าครับ
เนื้อผ้าดีราคาก็ดีตามมาครับ
ผ้าดีราคาแพงคนสนใจยังไงก็ซื้อครับไม่ต้องห่วงเรื่องราคาครับ
6
ตรวจทานคำผิดและความถูกต้องของเนื้อหา
เช่นมีพิมพ์ตกหล่นหรือสะกดคำผิดบ้างหรือเปล่า
ผมรับรองว่าต้องมีแน่นอนเพราะเราพิมพ์อย่างเดียวเพื่อให้เสร็จทันเวลา
ดังนั้นต้องมาตรวจความผิดพลาดภายหลังเพื่อความถูกต้องของเนื้อหาก่อนที่จะนำ
ออกจำหน่าย ขั้นตอนนี้อาจจะใช้เวลา 2-3 วันในการอ่านเนื้อหา
และการตรวจหาคำผิดต่างๆ
อย่าลืมเราต้องอ่านเนื้อหาภายในเล่มของเราด้วยเพื่อทำความเข้าใจ
ว่าลูกค้าอ่านแล้วเข้าใจมากน้อยนาดไหนในเนื้อเรื่องที่เราเขียน
7
ออกวางจำหน่ายหรือวางขาย
การวางขายนั้นถ้ากรณีเรามีเว็บไซต์หรือบล็อกของตัวเองเราก็นำไปวางขายที่
หน้าเว็บของเราเอง ซึ่งข้อดีก็คือเราจะได้เงินเกือบ 100%
แต่อาจจะต้องเสียค่าเช่าโฮสและค่าโดเมน
กรณี
ถ้าเราไม่มีเว็บไซต์หรือบล็อกของตัวเอง
เราก็ไปฝากขายตามเว็บส่วนกลางที่เขารับเป็นนายหน้าให้ไปวางฝากขายหน้าร้าน
ของเขา เช่น Mebmsrket.com , Ebooks.in.th และอื่นอีกหลายที่
เว็บ
กลางเขาก็คิดเปอร์เซ็นต์ในการที่เราขายได้โดยเขาจะหักจากค่าใช้จ่ายต่างโดย
ประมาณ 20-30% เลยทีเดียวซึ่งเป็นจำนวนเงินที่เยอะพอสมควร
*การเขียนอีบุ๊คนี้ที่สำคัญ มันเป็นรายได้ที่เป็นแบบ PassiveIncome
ซะด้วยครับ ซึ่งเป็นรายได้ที่ใครต่อหลายๆคนสนใจกันมากในปัจจุบัน
ซึ่งรายได้จะเข้ากระเป๋าเราตลอด ในการทำหรือสร้างผลงานเพียงครั้งเดียว*
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น